23 กุมภาพันธ์ 2555

ประเภทของกาแฟ


เคยไหมที่เวลารู้สึกอยากดื่มกาแฟขึ้นมา เมื่อเดินเข้าร้านกาแฟแล้วไม่รู้ว่าจะสั่งกาแฟชนิดไหนดี ครั้นจะบอกคนขายว่าเอากาแฟเย็น กาแฟร้อน เพียงอย่างเดียว คนขายก็อาจจะงง และไม่รู้ว่าจะทำสูตรไหนให้คุณดี ดังนั้น เราจึงต้องคิดและสั่งสูตรกาแฟเอง แต่ก็นั่นอีกเช่นกัน ถึงแม้ว่าตามร้านกาแฟทั่วๆ ไป จะมีชื่อของสูตรกาแฟให้คุณสั่งอยู่หลายชนิดก็ตาม แต่คุณก็ยังคงไม่ทราบว่าจะสั่งสูตรไหนดี และแต่ละสูตรนั้นเป็นอย่างไร มีรสชาดอย่างไร มีส่วนผสมอะไรบ้าง และแต่ละสูตรนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร

วันนี้เรามาดูกันว่าสูตรกาแฟที่อยู่บนป้ายตามร้านกาแฟต่างๆ นั้น แต่ละสูตรจะเป็นอย่างไร มีรสชาด ส่วนผสมอะไรบ้าง มาเริ่มกันที่สูตรแรก ก็คือ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี ซึ่งจะมีเอสเพรสโซ่ และนม เป็นส่วนผสมหลัก คนในประเทศอิตาลีส่วนใหญ่มักมีการดื่มกาแฟชนิดคาปูชิโน่โดยเฉพาะในตอนเช้า ซึ่งก็อาจจะมีขนมปังแผ่นหรือคุ้กกี้ประกอบด้วย

ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะว่าวิถีชีวิตของชาวอิตาลีมักไม่ค่อยรับประทานอาหารเช้าแบบเป็นกิจลักษณะ คาปูชิโนและขนมปังเบาๆ จึงเหมาะเป็นอาหารรองท้องสำหรับยามเช้า และด้วยเหตุนี้ทำให้ไม่ดื่มคาปูชิโนในช่วงอื่นของวัน

สำหรับประเภทของกาแฟชนิดถัดมาก็คือ Latte ลาเต้เป็นภาษาอิตาลี ซึ่งมีความหมายที่แปลว่า นม ดังนั้น รสชาดจึงมีความหวานและมันจากนม กาแฟลาเต้นี้เป็นที่นิยมอย่างมากนอกประเทศอิตาลีช่วงต้นทศวรรษที่ 1980 นอกจากนี้ กาแฟลาเต้ที่รู้จักกันในอิตาลี ยังมีความหมายที่ใกล้เคียงกับภาษาฝรั่งเศส "café au lait" ซึ่งหมายถึง กาแฟกับนม
เป็นกาแฟอราบิก้าชนิดหนึ่ง สำหรับที่มาของกาแฟมอคค่านี้ก็เนื่องจาก กาแฟมอคค่านี้เป็นกาแฟอราบิก้าชนิดหนึ่งที่ปลูกอยู่บริเวณท่าเรือมอคค่า ในประเทศเยเมน ซึ่งกาแฟมอคค่านี้จะมีสีและกลิ่นคล้ายชอคโกแลต (แม้ว่าจะไม่มีส่วนประกอบของชอคโกแลตในมอคค่าเลยก็ตาม) ซึ่งก็นับว่าเป็นเอกลัษณ์เฉพาะของกาแฟมอคค่า

นอกจากนี้ มอคค่ายังหมายถึง สูตรกาแฟที่มีส่วนผสมระหว่างเอสเพรสโซ่และโกโก้อีกด้วย

สำหรับที่มาของชื่ออเมริกาโนนั้น ตีความกันอย่างง่ายๆ ก็หมายถึงสหรัฐอเมริกา ว่ากันว่าเอสเพรสโซเพียวๆ นั้น เข้มข้นเกินไปสำหรับคอกาแฟชาวอเมริกา ดังนั้น จึงได้มีการปรับปรุงสูตร โดยมีการนำน้ำร้อนมาเจือจางกาแฟเอสเพรสโซเพื่อให้มีรสชาดที่เบาบางลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถึงแม้ที่มาของชื่อจะหมายถึงกาแฟสไตล์อเมริกาก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอเมริกาโนนี้จะเป็นกาแฟที่คนอเมริกานิยมดื่มกันและสำหรับกาแฟประเภทสุดท้ายนี้ก็คือ เอสเพรสโซ่ ที่มีรสชาดเข้มข้นที่สุด โดยที่มาของเอสเพรสโซ่นี้ มาจากคำในภาษาอิตาลี ที่แปลว่า เร่งด่วน

เอสเพรสโซเป็นกาแฟที่นิยมมากที่สุดในแถบประเทศยุโรปตอนใต้ โดยเฉพาะประเทศอิตาลีและฝรั่งเศส การสั่งกาแฟ"caffe" ในร้านส่วนใหญ่แล้วจะสั่งเป็นกาแฟเอสเพรสโซ่

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่ดื่มกาแฟเอสเพรสโซ่นั้นจะไม่เติมน้ำตาลหรือนม แต่อย่างใด ทั้งนี้ ก็เพื่อที่จะลิ้มรสของความเข้มข้นและหนักแน่นของเอสเพรสโซ่แท้ๆ Tips เล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเอสเพรสโซ่ ต้องดื่มในขณะที่ชงเสร็จใหม่ เนื่องจากเอสเพรสโซ่มีความไวสูงในการทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ดังนั้น เพื่อไม่ให้เสียรสชาดของเอสเพรสโซ่ที่แท้จริงก็ควรดื่มขณะที่ชงเสร็จใหม่ๆ

ทีนี้พอเข้าร้านกาแฟก็จะได้สั่งได้ถูก ว่าต้องการดื่มรสชาดประมาณไหน...





ขอขอบคุณ coffee-blood.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Comments